เมื่อตอนที่แล้วเราพูดถึงเรื่องอาการเบรกแตกที่อาจมีผลมาจากระบบไฮดรอลิกเบรก กันไปแล้วนะครับ ซึ่งปัจจัยสำคัญของระบบไฮดรอลิกเบรกก็คือ ตัวน้ำมันเบรกนั่นเอง วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเราควรเลือกใช้และดูแลน้ำมันเบรกของเราอย่างไร
มาตรฐานของน้ำมันเบรก
ในปัจจุบันน้ำมันเบรกได้มีมาตรฐานต่างๆ ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลโลก ซึ่งโดยส่วนมากที่ท่านผู้ใช้รถมักจะเห็นและได้ยินเสมอคือ มาตรฐาน “DOT” หรือ Department of Transportation ซึ่งเป็นมาตรฐานหลักของสหรัฐอเมริกา โดยมาตรฐาน DOT เป็นการบ่งบอกถึงการจุดเดือดของน้ำมันเบรก (น้ำมันก็เดือดได้เหมือนกันนะคร๊าบบ) ยิ่งน้ำมันเบรกมีจุดเดือดสูงมาก ก็จะเป็นผลดีเพราะสามารถทนอุณหภูมิได้มากกว่า (น้ำมันไม่เดือด ยังคงสภาพความเป็นของเหลวซึ่งสามารถส่งถ่ายแรงดันในระบบได้อยู่) แต่หากน้ำมันเบรกมีจุดเดือดต่ำก็จะทำให้น้ำมันเบรกเดือดเร็วและทำให้สภาวะของเหลวกลายเป็นไอ ซึ่งเมื่อน้ำมันเบรกกลายเป็นไอหรือ ฟองไอน้ำมันเบรก ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการส่งถ่ายแรงดันน้อยลงเพราะช่องว่างซึ่งเป็นฟองไอน้ำมันเบรก สามารถถูกบีบตัวได้มากกว่าของเหลว รวมถึงการนำพาความร้อนจากชุดเบรกก็จะด้อยลงด้วย เป็นผลทำให้ชุดเบรกและระบบเบรกเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจาก ความร้อนสะสมในระบบสูงเกินไป และที่สำคัญ !! ควรใช้น้ำมันเบรกที่มี DOT ตรงตามค่าโรงงานที่กำหนดไว้ เช่น ทางผู้ผลิตระบุให้ใช้น้ำมันเบรกมาตรฐาน DOT 3 ก็ควรใช้น้ำมันเบรกมาตรฐาน DOT 3 เติมลงไปในระบบเท่านั้น ไม่ควรใช้ DOT อื่นๆ เพราะจะทำให้มีผลต่อลูกยางไฮโดรลิคภายใน รวมอุปกรณ์ต่างๆภายในระบบเบรกของรถท่านผู้ใช้รถอีกด้วย
จุดเดือดในน้ำมันเบรก กับ ประเภทของน้ำมันเบรก
ปกติแล้วท่านผู้ใช้รถมักจะได้ยินหรือรู้จักกับ มาตรฐาน DOT แล้ว ไม่ว่าจะเป็น DOT 3, 4, 5 และ 5.1 ซึ่งช่วยให้เลือกน้ำมันเบรกที่ถูกต้องได้ แต่มาตรฐาน DOT ก็สามารถบ่งบอกสรรพคุณต่างๆ ให้กับท่านผู้อ่านได้อีก โดยเฉพาะเรื่องของอุณหภูมิจุดเดือดของน้ำมันเบรก
จุดเดือดแห้ง กับ จุดเดือดชื้น
คำว่า Dry / Wet Boiling Point คือการบอกจุดเดือดในแต่ละสภาวะ ซึ่งแบ่งเป็นจุดเดือดแห้ง (ในกรณีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกในช่วงแรก รวมไปถึงไม่ได้ใช้รถในเวลาที่มีอากาศชื้น เช่น ขับรถขณะฝนตก) และจุดเดือนชื้น (ในกรณีมีความชื้นในระบบ ซึ่งเป็นไปได้สำหรับรถทุกคันที่ขับใช้งานในชีวิตประจำวัน) สำหรับท่านผู้ขับขี่ที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน เราจะให้เน้นไปที่ค่า Wet Boiling เพราะรถยนต์ของท่านจะต้องเจอกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง และมีความชื้นเสมอ ส่วน Dry Boiling นั้น โดยส่วนมากจะเป็นค่าที่ไว้พิจารณาสำหรับรถแข่งในสนาม เพราะส่วนมากรถแข่งในสนามจะเปลี่ยนถ่ายของเหลวกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความพร้อมและให้ได้ขีดจำกัดสูงสุด ซึ่งส่วนมากจะไม่ค่อยได้เจอกับอากาศชื้น (หรือถ้าจะเจอก็ประมาณแค่ 1-2 ชั่วโมงในการแข่งต่อ 1 Race ซึ่งความชื้นยังไม่ทันจะแทรกตัวไปเข้าในระบบก็ถ่ายออกซะแล้ว) ยิ่งน้ำมันเบรกที่มีจุดเดือดสูง ก็ทำให้ประสิทธิภาพของระบบเบรกสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพราะแรงดันน้ำมันเบรกสามารถส่งผ่านไปยังชุดลูกสูบเบรกได้ ซึ่งทาง TRW ได้คิดค้นและพัฒนาน้ำมันเบรก ให้มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐาน DOT โดยจุดเดือดในแต่ละ DOT จะมากกว่าค่ามาตรฐาน ซึ่งเป็นผลดีเนื่องจากรถของท่านผู้ใช้รถบางคัน ระบบเบรกเป็นน้ำมัน DOT 3 ซึ่งจุดเดือดน้ำมันเบรกน้อยกว่า DOT 4 ท่านก็สามารถใช้ประสิทธิภาพจากน้ำมันเบรก TRW Brake Fluid DOT 3 ซึ่งมีจุดเดือดที่ใกล้เคียงกับน้ำมันเบรกมาตรฐาน DOT 4 ทั่วไปได้เช่นกัน
K.LOP AUTOMOTIVE PARTS อะไหล่รถยนต์-แอร์ รถญี่ปุ่น-ยุโรป ลูบริแคนท์สสำหรับเครื่องยนต์
E -mail: klopcoolstore@gmail.com
FACEBOOK: @klopyonstore
LINE@: @klopyonstore
LINE ธรรมดา: