เพื่อนๆนักขับ หลายๆท่านคงเคย ได้ยินคำว่า เบรกแตกหรือเบรกหายกันมาบ้างแล้วนะครับ แล้วจริงๆมันคืออะไรและเกี่ยวอะไรกับเนื้อผ้าเบรก ช่างแม็ทธิว มีคำตอบครับ
เบรกเฟด (Fade) คือการที่ผ้าเบรกกับจานเบรกมีอุณหภูมิสูงเกินกว่าระดับปกติ ทำให้เนื้อผ้าเบรกและจานเบรกไม่สามารถจับตัวกันเพื่อสร้างแรงเสียดได้ เป็นผลมาจากการใช้เบรกอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งทำให้อุณหภูมิสะสมในระบบเบรกไม่ว่าจะเป็น จานเบรก, ผ้าเบรก และชุดลูกสูบเบรก โดยส่วนมากเนื้อผ้าเบรกจะสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้น้อยกว่าจานเบรก (หรือกล่าวง่ายๆคือ “ผ้าไปก่อนจาน” อย่างแน่นอนขอรับเจ้านายยยย..) ซึ่งทั้งนี้เป็นผลมาจาก สารประกอบและเนื้อสารในผ้าเบรกถูกออกแบบให้ทนทานต่ออุณหภูมิได้แตกต่างกัน ก่อนที่ช่างแมทธิวจะพาท่านผู้ใช้รถไปดูส่วนประกอบหลักๆ ของเนื้อผ้าเบรก ช่างแมทธิวขออธิบายเกี่ยวกับการ Fade ให้กับท่านผู้ใช้รถทราบก่อนนะครับ เพื่อจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจและรับรู้ปัญหาการ Fade ได้อย่างถูกต้อง
การ Fade ของเบรก จะแบ่งเป็น 2 ลักษณะนะครับ
1. Initial Fade
อย่างแรกเลยคือ Initial Fade หมายถึง การ Fade ครั้งแรก หลังจากที่ท่านผู้ใช้รถได้เปลี่ยนผ้าเบรกชุดใหม่ ซึ่งการ Fade นี้ช่างแมทธิวขอบอกว่า “ไม่ใช่ปัญหาหนัก” เพราะ Initial Fade จะเกิดขึ้นเมื่อ “เปลี่ยนผ้าเบรกชุดใหม่” เท่านั้น ซึ่ง Initial Fade เกิดจากการที่ เนื้อผ้าเบรก (ที่ยังใหม่ๆ ซิงๆ) ได้รับความร้อน (ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของวัตถุ) จึงทำการคลายก๊าซ และ ความชื้นที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต (มีทุกที่ และทุกยี่ห้อ เลยนะครับ เพราะคงไม่มีผ้าเบรกชิ้นไหนที่เก็บไว้ในห้องสูญญากาศ ปิดผนึกซีล จนขาดอากาศหายใจกันเลยทีเดียว) ซึ่งเจ้าก๊าซที่ว่านี้ จะไปคั่นกลางอยู่ระหว่าง ผ้าเบรกและจานเบรก ทำให้การสร้างแรงเสียดทานระหว่าง ท่านทั้งสอง (ผ้าและจานเบรก) จะหดหายหรือลดน้อยลงไปชั่วขณะ แต่ไม่นานเกินรอ ก็จะกลับสู่สภาพปกติ ซึ่งช่างแมทธิวขอแนะนำว่า หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ ในช่วงแรกๆ ไม่ควรใช้เบรกหนัก ท่านผู้ใช้รถควรจะ “Bedding-In” ซะก่อน เพราะไม่งั้น เจ้า Initial Fade นี่แหละ อาจจะเป็นการ Fade ที่อันตรายได้ “หากท่านไม่ยอม Bedding-In” นะแคร๊บบ
2. Second Fade
การ Fade ครั้งนี้ มีอันตรายแน่” หลังจากที่ท่านผู้ใช้รถได้ Bedding In ครบระยะเรียบร้อยแล้ว ผิวหน้าผ้าเบรกก็จะปรับสภาพเข้ากับผิวหน้าจานเบรกได้แนบสนิท รวมไปถึงการคลายก๊าซและการระบายความชื้นบนหน้าผ้าเบรกก็จะไม่มีแล้ว แต่ก๊าซร้อนที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะเป็นอุบัติภัย มหากาพย์เรื่องใหม่ (พูดซะใหญ่โต เอิ๊กๆ เดี๋ยวช่างแมทธิวจะบอกให้ว่า มันยิ่งใหญ่อย่างไร) ก็เพราะการ Fade ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่ผ้าเบรก ทำงานหนักจนเกินหน้าที่ (ไม่มี OT ให้ซะด้วยสิ) อุณหภูมิของผิวหน้าผ้าเบรกสูงเกินกว่าที่เนื้อผ้าเบรกจะทนได้ ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเกิดการไหม้ของเนื้อวัสดุผิวหน้าผ้าเบรก ซึ่งการเผาไหม้ตรงนี้ ก็จะทำให้เกิดก๊าซร้อนขึ้น (ลักษณะคล้ายๆกับ Initial) และการที่จะทำให้ก๊าซร้อนนี้หายไปได้ ก็คือการ ลดอุณหภูมิผิวหน้าผ้าเบรก เพื่อไม่ให้ผ้าเบรกทำงานหนักจนเกินไป ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ……….. เบรกไม่อยู่แน่นอน ขอร๊าบบบบ
------------------------------------------------------------------------------------
แต่เดิมเนื้อผ้าเบรกจะมี Asbestos หรือแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากสามารถสร้างแรงเสียดทานได้สูงในอุณหภูมิต่ำๆ แต่เจ้าแร่ใยหินก็มีข้อเสียคือ สึกหรอเร็ว, ไม่สามารถทนอุณหภูมิสูงๆได้ และที่เลวร้ายที่สุดคือเป็นสารก่อมะเร็งทำให้ปัจจุบันมีการบังคับให้ยกเลิกใช้ Asbestos เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน เนื้อผ้าเบรกหลักๆ ที่ใช้กันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทครับ
K.LOP AUTOMOTIVE PARTS อะไหล่รถยนต์-แอร์ รถญี่ปุ่น-ยุโรป ลูบริแคนท์สสำหรับเครื่องยนต์
E -mail: klopcoolstore@gmail.com
FACEBOOK: @klopyonstore
LINE@: @klopyonstore
LINE ธรรมดา: