อย่าหมุนพวงมาลัยจนสุด หลายๆ ท่านทราบดีอยู่แล้ว เนื่องจากในคู่มือการใช้รถบางยี่ห้อ ก็ได้เขียนบอกเอาไว้เลยว่า
ไม่ควรเลี้ยวพวงมาลัยจนสุดค้างไว้นานๆ เนื่องจากจะทำให้น้ำมันเพาเวอร์มีความร้อนสูง และอาจทำให้เกิดความเสียหาย
กับระบบของพวงมาลัย ซึ่งในที่นี้เราจะกล่าวถึง ระบบของพวงมาลัยเพาเวอร์ แบบที่ใช้ระบบ ไฮครอลิค ในการสร้างความดันน้ำมัน
ไม่ใช่พวงมาลัยไฟฟ้าของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นะครับ มีหลายท่านเกิดความสงสัย เพราะเหตุไร มันจึงทำให้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์
เสียหายได้ ในเมื่อในระบบก็ต้อง มีวาล์วควบคุมความดันอยู่แล้ว จะเลี้ยวให้สุดค้างไว้ก็ไม่น่าจะเป็นไร
เราลองมาดูกันว่า มีเกิดอะไรขึ้นในขณะที่ เราเลี้ยวพวงมาลัยจนสุดค้างเอาไว้ และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ??
มีอะไรอยู่ในนั้น .. Ñ
ส่วนประกอบหลัก ของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ได้แก่ ปั๊มเพาเวอร์ หรือที่ภาษาตลาดเรียกว่า " ตัวปั่น " เป็นตัวสร้างความดันน้ำมันไฮดรอลิค
โดยรับแรงจากเครื่องยนต์ แล้วส่งไปที่กระปุกพวงมาลัย ความดันในระบบไฮดรอลิคนั้น มีเพียงพอที่จะใช้ผ่อนแรง ในการเลี้ยวตั้งแต่รอบเดินเบา
เพราะภาระสูงสุด ในการออกแรงหมุนพวงมาลัย เกิดขึ้นในขณะที่รถยนต์จอดอยู่กับที่
เมื่อเราเร่งเครื่อง ความเร็วรอบของปั๊มเพาเวอร์ก็จะหมุนเร็วขึ้นด้วย เพื่อที่จะควบคุมปริมาณน้ำมันที่จะส่งไปที่กระปุกพวงมาลัย
ไม่ให้มากเกินความจำเป็น ที่ตัวปั๊มเพาเวอร์จะมี วาล์วควบคุมปริมาณการไหลของน้ำมัน (Flow Control Valve)
โดยมากความดันที่เกิดขึ้นในระบบไฮดรอลิค จะอยู่ในช่วงประมาณ 10-30 kg./ตารางเซนติเมตร
ส่วนประกอบหลัก อีกอย่างหนึ่งคือ กระปุกพวงมาลัย ไม่ว่าจะเป็นแบบ แร็ค แอนด์ พิเนียน (Rack and pinion) หรือแบบ บอล แอนด์ นัต
(Ball and Nut) ใช้ในรถปิคอัพ ที่ขายในไทยช่วงก่อนปี 2000 จะมีชุดวาล์วควบคุมทิศทางน้ำมันไฮดรอลิค แบบ โรตารี่วาล์ว
ควบคุมการทำงานด้วยแรงหมุนพวงมาลัยจากผู้ขับ ร่วมกับความฝืด ของยางรถยนต์กับพื้นถนน โดยอาศัยการบิดตัวของ ทอร์ชันบาร์สปริง
หมุนพวงมาลัย แล้วเกิดอะไรขึ้น ??
เมื่อยังไม่เกิดการเลี้ยว ชุดโรตารี่วาล์วจะปล่อยให้น้ำมันไหลเข้าไปได้ 'ทั้งสองด้าน' ของลูกสูบกำลัง (สร้างเป็นชุดเดียวกันกับเฟืองบรรทัด)
ทำให้ลูกสูบอยู่ในสภาวะสมดุลกัน และน้ำมันก็จะ ถูกส่งกลับไปยังถังเก็บน้ำมัน แล้วถูกดูดกลับไปที่ปั๊มเพาเวอร์ วนเวียนไปมาตลอดเวลา
จนกระทั่งเมื่อเราเริ่มหมุนพวงมาลัย ทอร์ชันบาร์สปริงเริ่มบิดตัว ทำให้โรตารีวาล์วทำงาน เปิดทางให้น้ำมันไฮดรอลิคเข้าไปดัน 'ด้านใดด้านหนึ่ง'
ของลูกสูบกำลัง ทำให้เกิดการช่วยผ่อนแรงในการเลี้ยว เมื่อเราหยุดหมุนพวงมาลัย ในขณะที่รถยังเลี้ยวอยู่ (เช่นเข้าโค้งยาวๆ) แต่ไม่ได้เลี้ยวจนสุด
ทอร์ชันบาร์จะไม่มีการบิดตัว โรตารี่วาล์วก็จะปล่อยให้น้ำมัน ไหลเข้าไปทั้งสองด้านเหมือนเดิม
ลักษณะนี้ยังไม่ทำให้เกิดความดันสูงขึ้นในระบบ ดังนั้นการเลี้ยวค้างไว้ แต่เลี้ยวไม่สุด จึงไม่เกิดผลเสียใดๆ กับระบบไฮดรอลิค
แต่เมื่อมีการหมุนพวงมาลัยจนสุด แล้วค้างไว้ ทอร์ชั่นบาร์สปริง ก็จะบิดตัวตลอดเวลา โรตารีวาล์วก็จะเปิดทางให้น้ำมัน เข้าไปดันด้านใดด้านหนึ่ง
ของลูกสูบกำลัง ดังนั้น !! เมื่อเราส่งน้ำมันจากปั๊มเพาเวอร์เข้าไป ดันในขณะที่ลูกสูบกำลัง " ไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้ " ความดันน้ำมันก็จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยปกติน้ำมันจะส่งจากปั๊ม ไปยังโรตารี่วาล์ว แล้วระบายกลับไปยังถัง เมื่อเราหมุนพวงมาลัยเลี้ยว ทอร์ชั่นบาร์ในแกนพวงมาลัยจะเกิดการบิดตัว
เพื่อควบคุมทิศทางน้ำมัน ในกรณีที่เลี้ยวไม่สุด ทอร์ชั่นบาร์จะบิดตัวกลับคืนมา ในกรณีที่เลี้ยวจนสุด ทอร์ชั่นบาร์จะบิดตัวค้าง (ไม่ว่าจะซ้าย - ขวา)
ทำให้น้ำมันมีการส่งเข้าตลอดเวลา และทำให้เกิดความดันน้ำมันสูงจนเกินไป ผลที่ตามมาคือ เกิดการรั่วตามจุดต่างๆ ก่อนเวลาอันควร
แน่นอนว่าระบบ จะต้องมีตัวป้องกัน มิฉะนั้นท่อทางน้ำมัน หรือโอริงต่างๆ จะต้องรั่วแน่ๆ ซึ่งในระบบก็จะมี วาล์วควบคุมความดัน อีกตัวหนึ่ง
อยู่ที่ปั๊มเพาเวอร์ (Pressure Relief Valve) ทำหน้าที่ ระบายความดันขั้นสุดท้าย มักจะเปิดที่ความดันมากกว่า 80 kg./ตาราง ซม.
ซึ่งเป็นความดันที่สูงกว่าปกติมาก ในรถบางคันเราถึงกับได้ยิน เสียงสะท้านดังเข้ามาในห้องโดยสารเลยทีเดียว
ดังนั้นเมื่อเราหักเลี้ยวพวงมาลัยจนสุดค้างเอาไว้ เช่น กรณีหักพวงมาลัยรอเลี้ยวยูเทิร์น ก็จะทำให้ระบบไฮดรอลิคเกิดความดันสูงมาก
ถ้าเราทำบ่อยๆ ผลที่ตามมาคือ น้ำมันไฮดรอลิคจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร ท่อทางเดินน้ำมันต้านแรงดันสูงที่เป็นท่อยาง จะเกิดการรั่วตามข้อต่อ
(ราคาแพงไม่ใช่น้อย) ปั๊มเพาเวอร์จะรับภาระหนัก และมีเสียงดังในที่สุด
กรณีที่พบบ่อยๆ อีกอย่างก็คือ มีน้ำมันรั่วที่กระปุกพวงมาลัย ถ้าเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียน ก็จะมีน้ำมันรั่วออกมาจากยางกันฝุ่น
บางยี่ห้อไม่มีชุดซ่อมขาย ก็ต้องเปลี่ยนทั้งตัว เบิกใหม่ก็ว่ากันที่หลักหมื่นเลยทีเดียว
เคยมีคนถามว่า แล้วถ้าต่อท่อทางเดินน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น?? กรณีที่มีใครอุตริทำอย่างนั้น เมื่อติดเครื่อง ความดันน้ำมันจะทำให้พวงมาลัย
หมุนตีเองไปจนสุด ต่อให้เอามือขืนไว้ก็ยังเอาไม่อยู่ ต้องดับเครื่องสถานเดียว ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ความดันที่ถูกส่งมานั้น มีกำลังมหาศาลขนาดไหน
แต่ไม่ต้องห่วงครับ ในรถปกติไม่เคยพบว่ามีเหตุการณ์เลี้ยวเองอะไรแบบนี้
การป้องกัน
กลับมาที่การป้องกัน เราสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดังกล่าวได้ง่ายๆ เมื่อมีเหตุที่จะต้องหมุนพวงมาลัยค้างไว้ (เช่นรอยูเทิร์นอย่างที่ว่า)
เราก็อย่าเลี้ยวจนสุด นั่นคือเมื่อเราหมุนพวงมาลัยจนกระทั่งรู้สึกว่ามันสุดแล้ว ให้ผ่อนแรงมือออกจากวงพวงมาลัย หรือคืนพวงมาลัยเล็กน้อย
เพื่อที่จะทำให้ทอร์ชั่นบาร์สปริงในชุดโรตารี่วาล์วคืนตัว น้ำมันไฮดรอลิคก็จะเข้าไปทั้งสองด้านของลูกสูบกำลัง แล้วไหลวนเข้าสู่ถังเก็บน้ำมัน
ความดันในระบบก็จะไม่สูงมากโดยไม่จำเป็น ชิ้นส่วนต่างในระบบบังคับเลี้ยวแบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ก็จะได้ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ
หรือ มีอันที่จะต้องเสียเงินซ่อมก่อนเวลาอันควร
ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆจาก http://www.motortrivia.com/section-tips-technic/0005-power-steering/power-steering.html
K.LOP AUTOMOTIVE PARTS อะไหล่รถยนต์-แอร์ รถญี่ปุ่น-ยุโรป ลูบริแคนท์สสำหรับเครื่องยนต์
E -mail: klopcoolstore@gmail.com
FACEBOOK: @klopyonstore
LINE@: @klopyonstore
LINE ธรรมดา: